ลักษณะเด่นของการแสดงหนังในอดีตคือ
การขับบทกลอน ผสมผสานกับการสนทนาของตัวตลก
การสื่อสารระหว่างตัวละครส่วนใหญ่สื่อด้วยภาษาร้อยกรอง และน้อยนักที่จะพบการสนทนาด้วยภาษาพูด
แล้ถ้ามีก็อาจจะเพียง 2 – 3 นาที แทรกอยู่ระหว่างการขับบท การขับบทอาศัยจังหวะที่เรียบง่ายของโหม่งและฉิ่งนายหนังร่วมสมัย
ที่จำแนกโดยผู้ชมในท้องถิ่นว่าเป็น นายหนังโบราณ ฉากที่แสดงอาจจะเริ่มต้นด้วยการขับบทของตัวเอกราว
2 - 3 นาที ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้า
และการกระทำของตัวละครปัจจุบัน จากนั้นนายหนังก็ออกตัวละครอื่นและเริ่มสนทนา การสนทนาอาจจะกินเวลาประมาณ
20 นาที หรือมากกว่า
การสนทนาของตัวละครหลักบ่อยครั้งจะค่อนข้างยืดยาวคล้ายกับการกล่าวสุนทรพจน์ที่เรียบง่าย
และนุ่มนวลส่วนการสนทนาของตัวตลกจะกระชับและรวดเร็วหลังการสนทนาก็กลับเข้าสู่การขับบทเพื่อสรุปเรื่องราวอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มฉากใหม่
ระหว่างการขับบทเพื่อปิดฉากก่อนที่จะเริ่มฉากใหม่ บางครั้งจะถูกแทรกด้วยการบรรเลงดนตรี
เพื่อให้นายหนังดื่มน้ำหรือมีเวลาพักชั่วคราว ในอดีตดนตรีจะบรรเลงตามท่วงทำนองดั้งเดิมคือ
เริ่มด้วยการบรรเลงดนตรี การขับบทการสนทนา และการขับบทสรุปฉากที่แสดงผ่านมาในระหว่างฉากที่แสดงนั้น
หลังการขับบทแรกสิ้นสุดลงบ่อยครั้งนายหนังจะปล่อยให้ฉากเงียบไป แต่บางครั้งก็บรรเลงดนตรี
2 - 3 นาที ก่อนที่ขับบทถัดไปดังนั้นการแสดงจึงดำเนินไปเรียบๆ และบ่อยครั้งทำให้ผู้ชมง่วงและหลับ
บทสนทนาของนายหนังสมัยใหม่ต่างจากนายหนังรุ่นเก่า
นายหนังรุ่นเก่าจะปล่อยให้ตัวละครพูดค่อนข้างยืดยาวทีละคน แต่ตัวละครของนายหนังรุ่นใหม่ดูคล้ายจะพูดพร้อมกันและพูดเร็วคล้ายบทพูดในภาพยนตร์
และการสนทนาของคนจริงๆ ทั้งนายหนังรุ่นเก่าและสมัยใหม่ต่างเดินทางไปแสดงตามจังหวัดต่างๆ
ของภาคใต้ แต่นายหนังรุ่นใหม่มิได้ใช้ความแตกต่างของสำเนียงภาษาแต่ละจังหวัดมุขหลักของความขบขันอย่างที่หนังดั้งเดิมนิยม
นายหนังสมัยนิยมผนวกศัพท์แสงยุคไฮเทคเข้าเป็นภาษาหนังตะลุง นายหนังรุ่นใหม่ค่อนข้างจะใช้เสียงและออกเสียงภาษากลาง
ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้โดยตัวละครชั้นสูงได้อย่างถูกต้องและชัดเจนกว่านายหนังรุ่นเก่า ทั้งนี้เป็นเพราะนายหนังรุ่นปัจจุบันค่อนข้างจะมีการศึกษาดี
ดังเห็นได้จากการแสดงของหนังณรงค์ซึ่งมีการใช้ทั้งราชาศัพท์และภาษาบาลี หนังน้องเดียวก็จะร้องเพลงลูกทุ่งสลับกับพากย์หนังการขยายเวลาของบทสนทนาเป็นลักษณะเด่นของหนังปัจจุบัน
ความเปลี่ยนแปลงเทคนิคภาษาพูดที่ชัดเจนก็คือการผนวกเพลงลูกทุ่งหรือเพลงประเภทอื่นเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงหนังตะลุง
เนื้อเพลงที่ผนวกเข้ามานั้น อาจจะเป็นบางท่อนหรือเนื้อทั้งหมดของเพลง นายหนังที่มีความเชี่ยวชาญบางคนจะให้ตัวตลกหลายคนร้องเพลงสลับกัน
โดยแต่ละคนยังรักษาเอกลักษณ์เสียงของตน ความเชี่ยวชาญดังกล่าวเพิ่มความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง
เพราะเพลงดังกล่าวไม่เพียงแต่ร้องได้ดี และตลกขบขัน หากแต่ยังเป็นเพลงร้องด้วยภาษาและสำเนียงภาคใต้
ความซับซ้อนของเทคนิคด้านเสียงและภาษาพูดของนายหนังสมัยใหม่
ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของภาษาถื่น หากแต่รวมถึงการสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของปัจจัยต่างๆ
ที่กระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนภาคใต้ปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น