งานประเพณีแข่งโพนลากพระ
ประวัติ / ความเป็นมา
“โพน” เป็นภาษาท้องถิ่นของจังหวัดพัทลุง เป็นชื่อกลองซึ่งมีลักษณะเหมือน “กลองทัด” มีสามขา ตีด้วยไม้แข็ง 2 มือ หน้ากลองมีขนาดตั้งแต่ 35-100 เซนติเมตร ทำจากไม้ต้นตาล หรือไม้ขนุน หน้าโพนนิยมหุ้มด้วยหนังควายหรือหนังวัวทั้งสองหน้า
การแข่งขันโพน เป็นประเพณีหนึ่งของภาคใต้ เชื่อว่าเริ่มมีขึ้นพร้อมๆ กับประเพณีชักพระเนื่องจากนิยมปฏิบัติต่อเนื่องกันมา ก่อนที่จะมีการชักพระในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 คือ ในช่วงออกพรรษาประมาร ปลายเดือน 10 วัดต่างๆ จะเตรียมจัดประเพณีชักพระ โดยเริ่มตั้งแต่การทำบุษบก หุ้มโพนะและคุมโพน (ตีโพน) ก่อน เพื่อให้ชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ ได้ทราบว่าทางวัดจะจัดให้มีการชักพระตามประเพณีที่เคยปฏิบัติเป็นประจำทุกปี แต่ส่วนมากวัดจะอยู่ในละแวกเดียวกัน ทำให้ชาวบ้านไม่ทราบว่าเสียงโพนที่ตีเป็นของวัดใด ทำให้แต่ละวัดแข่งเสียงโพนกันว่าโพนวัดใดจะเสียงดังกว่ากัน ในระยะแรกๆ นั้นจะตีแข่งกันเองภายในวัด ต่อมาจึงค่อยๆ นำโพนมาประชันกันตามกลางทุ่นนา หรือสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ส่วนการหุ้มโพนก็ถือเป็นประเพณีที่สำคัญเช่นกัน เพราะการแข่งขันโพนนอกจากจะใช้ฝีมือผู้ตีแล้วก็อยู่ที่การหุ้มโพนด้วยเช่นกัน โพนจะดังหรือไม่ดังขึ้นอยู่กับการหุ้มโพน โดยที่แต่ละวัดถือเป็นความลับเริ่มด้วยการหาไม้มาตัดเป็นท่อน ตามความต้องการ แล้วนำไม้นั้นมาเจาะรูให้กลวงเท่ากันตลอด แต่โพนะที่ใช้เข่งวันนั้นจะเจาะรูภายในทั้งสองด้านเป็นรูปอกไก่ ทั้งนี้เพราะต้องการให้เสียงก้อง และเจาะรูลูกสักที่ขอบบนขอบล่างในระยะเท่าๆ กัน ใช้หนังควายตัดเป็นรูปกลมขนาดโตเท่าปากของไม้ที่เจาะรูไว้ นำไปแช่หัวข่าหยวกกล้วย เมื่อตากจนแห้งสนิทแล้วนำมาหุ้มสอดไม้ลูกสักตรงที่เจาะรูไว้ แล้วขึงให้ตึงทั้งข้างบนและข้างล่าง กล่าวได้ว่า จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ที่ยังรักษาประเพณีแข่งโพนไว้ ดังนั้นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนและศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง จึงจัดงานประเพณีแข่งโพนลากพระขึ้น เพื่ออนุรักษ์ประเพณีของท้องถิ่น และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ทั้งยังก่อให้เกิดความสนุกสนานมีการประชันความสามารถและความมีไหวพริบของผู้แข่งขัน รวมทั้งเป็นประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนา ก่อให้เกิดความรักในหมู่คณะและใน
กำหนดงาน
งานประเพณีแข่งโพนลากพระจัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง และลากพระที่หาดแสนสุข สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่
กิจกรรม / พิธี
การแข่งขันโพนแบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ การแข่งขันมือ (ตีทน) ใช้เวลาแข่งนานจนกว่าผู้ตีจะหมดแรง ส่วนการแข่งขันอีกประเภทหนึ่ง คือ การแข่งขันเสียง ในเวลาการแข่งขันสั้น และเป็นที่นิยมมากกว่าการแข่งขันตีทนนอกจากนี้มีการประกวดธิดาโพน การประกวดโพนสวยงาม การประกวดเรือพระและการแข่งขันการซัดต้ม อย่าลืมไปเที่ยวงานแข่งโพนลากพระที่พัทลุงกันนะค่ะ
“โพน” เป็นภาษาท้องถิ่นของจังหวัดพัทลุง เป็นชื่อกลองซึ่งมีลักษณะเหมือน “กลองทัด” มีสามขา ตีด้วยไม้แข็ง 2 มือ หน้ากลองมีขนาดตั้งแต่ 35-100 เซนติเมตร ทำจากไม้ต้นตาล หรือไม้ขนุน หน้าโพนนิยมหุ้มด้วยหนังควายหรือหนังวัวทั้งสองหน้า
การแข่งขันโพน เป็นประเพณีหนึ่งของภาคใต้ เชื่อว่าเริ่มมีขึ้นพร้อมๆ กับประเพณีชักพระเนื่องจากนิยมปฏิบัติต่อเนื่องกันมา ก่อนที่จะมีการชักพระในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 คือ ในช่วงออกพรรษาประมาร ปลายเดือน 10 วัดต่างๆ จะเตรียมจัดประเพณีชักพระ โดยเริ่มตั้งแต่การทำบุษบก หุ้มโพนะและคุมโพน (ตีโพน) ก่อน เพื่อให้ชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ ได้ทราบว่าทางวัดจะจัดให้มีการชักพระตามประเพณีที่เคยปฏิบัติเป็นประจำทุกปี แต่ส่วนมากวัดจะอยู่ในละแวกเดียวกัน ทำให้ชาวบ้านไม่ทราบว่าเสียงโพนที่ตีเป็นของวัดใด ทำให้แต่ละวัดแข่งเสียงโพนกันว่าโพนวัดใดจะเสียงดังกว่ากัน ในระยะแรกๆ นั้นจะตีแข่งกันเองภายในวัด ต่อมาจึงค่อยๆ นำโพนมาประชันกันตามกลางทุ่นนา หรือสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ส่วนการหุ้มโพนก็ถือเป็นประเพณีที่สำคัญเช่นกัน เพราะการแข่งขันโพนนอกจากจะใช้ฝีมือผู้ตีแล้วก็อยู่ที่การหุ้มโพนด้วยเช่นกัน โพนจะดังหรือไม่ดังขึ้นอยู่กับการหุ้มโพน โดยที่แต่ละวัดถือเป็นความลับเริ่มด้วยการหาไม้มาตัดเป็นท่อน ตามความต้องการ แล้วนำไม้นั้นมาเจาะรูให้กลวงเท่ากันตลอด แต่โพนะที่ใช้เข่งวันนั้นจะเจาะรูภายในทั้งสองด้านเป็นรูปอกไก่ ทั้งนี้เพราะต้องการให้เสียงก้อง และเจาะรูลูกสักที่ขอบบนขอบล่างในระยะเท่าๆ กัน ใช้หนังควายตัดเป็นรูปกลมขนาดโตเท่าปากของไม้ที่เจาะรูไว้ นำไปแช่หัวข่าหยวกกล้วย เมื่อตากจนแห้งสนิทแล้วนำมาหุ้มสอดไม้ลูกสักตรงที่เจาะรูไว้ แล้วขึงให้ตึงทั้งข้างบนและข้างล่าง กล่าวได้ว่า จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ที่ยังรักษาประเพณีแข่งโพนไว้ ดังนั้นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนและศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง จึงจัดงานประเพณีแข่งโพนลากพระขึ้น เพื่ออนุรักษ์ประเพณีของท้องถิ่น และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ทั้งยังก่อให้เกิดความสนุกสนานมีการประชันความสามารถและความมีไหวพริบของผู้แข่งขัน รวมทั้งเป็นประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนา ก่อให้เกิดความรักในหมู่คณะและใน
กำหนดงาน
งานประเพณีแข่งโพนลากพระจัดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง และลากพระที่หาดแสนสุข สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่
กิจกรรม / พิธี
การแข่งขันโพนแบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ การแข่งขันมือ (ตีทน) ใช้เวลาแข่งนานจนกว่าผู้ตีจะหมดแรง ส่วนการแข่งขันอีกประเภทหนึ่ง คือ การแข่งขันเสียง ในเวลาการแข่งขันสั้น และเป็นที่นิยมมากกว่าการแข่งขันตีทนนอกจากนี้มีการประกวดธิดาโพน การประกวดโพนสวยงาม การประกวดเรือพระและการแข่งขันการซัดต้ม อย่าลืมไปเที่ยวงานแข่งโพนลากพระที่พัทลุงกันนะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น